“ไอดอลเกาหลี” สุดฮอต !! จาก “ซีรีส์เกาหลี” สุดฮิต บน

img ]

เมื่อพูดถึง “เกาหลี” สิ่งที่เราจะนึกถึงกันเป็นอันดับแรกๆ ก็คงจะไม่พ้น ซุปกิมจิ บิงซู โซจู หรือการเดินช้อปปิ้งย่านเมียงดง และปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ “ซีรีส์เกาหลี” และ “ศิลปินไอดอล” ที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติเกาหลีในตอนนี้ไปแล้วในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมามีแฟนๆ ชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่นิยมบินไปถึงเกาหลีเพื่อติดตามเหล่าบรรดาไอดอลในดวงใจ หรือตามรอยซีรีส์สุดฮิตที่ชื่นชอบ แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ยังจำกัดการเดินทาง รวมถึงยังต้อง Work From Home กันแบบยาวๆ ทำให้หลายๆ คน ต้องหันมาเที่ยวทิพย์ ผ่านการดูซีรีส์เกาหลีสนุกๆ ที่มีเหล่าไอดอลคนโปรดนำแสดง เพื่อเยียวยาจิตใจให้หายคิดถึง งานนี้ ‘WeTV’ จึงไม่รอช้า รีบหาซีรีส์สนุกๆ พ่วงเหล่าไอดอลสุดปังมาให้ เพื่อแก้ความคิดถึงบรรยากาศของเกาหลีแบบ 2 in 1 ซึ่งขนมาให้ชมกันแบบรัวๆ จะมีใครและมาพร้อมกับซีรีส์เรื่องไหนกันบ้าง !? ไปดูกันได้เลย !

ใน “The Witch’s Diner”

ประเดิมเรื่องแรกกับซีรีส์..ที่ทุกคนรอคอย “The Witch’s Diner” ได้ ‘ซงจีฮโย’ หญิงแกร่งจาก Running Man รายการชื่อดังที่แฟนคลับชาวไทยทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี และนอกจาก ‘ซงจีฮโย’ ที่มารับบท “แม่มดสาวโจฮีรา” แล้ว เรื่องนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมือ ‘นัมจีฮยอน’ (จากเรื่อง “100 Days My Prince” ที่แสดงร่วมกับ “โดคยองซู"หรือ"ดีโอ” จาก EXO) มารับบท “จองจิน” หญิงสาวที่เผชิญกับความล้มเหลวทั้งชีวิตรักและหน้าที่การงาน หญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความปรารถนาในการแก้แค้นจนได้มาพบกับจีโฮรา และอีกหนึ่งหนุ่มที่เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง “อีกิลยง” (รับบทโดย แชจงฮยอบ ที่กำลังมาแรงจากเรื่อง Nevertheless) อดีตนักกีฬากรีฑาระยะไกลที่ความฝันพังทลายอย่างไม่คาดคิด และได้มาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารของแม่มดโจฮีรา “The Witch’s Diner” ซีรีส์เกาหลีดราม่าแฟนตาซี ร้านอาหารสุดลึกลับที่จะทำให้ความปรารถนาของลูกค้าเป็นจริง แต่ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ สิ่งที่ลูกค้าปรารถนาจะเป็นอย่างไร? สิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนต้องแลกจะมีอะไรบ้าง? คอซีรีส์เกาหลีแฟนตาซี ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ! ทุกความปรารถนาจะเสิร์ฟพร้อมกัน ! กรกฎาคมนี้ (2564) ทุกวันศุกร์ เวลา 18:00 น. (2 EP/วัน) จำนวน 8 ตอน รับชมฟรี ซับไทย ได้ที่ WeTV เท่านั้น | https://bit.ly/TheWitchsDiner

มากรี๊ดแรงๆ กันต่อ กับ “จินยอง” จาก GOT 7 สำหรับหนุ่มจินยองนั้น ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ผลงานการแสดงครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาหนุ่มจินยองมีผลงานการแสดงให้ได้ติดตามกันอย่างหลากหลายและไม่ว่าจะเล่นเรื่องไหนก็ดังเปรี้ยงปร้างไปเสียทุกเรื่องจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น “He is Psychometric” และ “When My Love Blooms” ซึ่งทั้งสองเรื่องก็สามารถรับชมผ่านทาง WeTV ได้แล้วเช่นกัน แต่สำหรับเรื่องนี้หนุ่มจินยอง รับบทเป็น “คิมกาอน” พลิกบทบาทสู่ผู้พิพากษาหนุ่มไฟแรงที่ต่อสู้กับความอยุติธรรมในซีรีส์แนวดราม่าจิตวิทยา “The Devil Judge” เมื่อศาลกลายเป็นรายการเรียลลิตี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนสามารถกำหนดคำพิพากษาได้เอง !? นำทีมนักแสดงคุณภาพโดย จีซอง รับบทเป็น “คังโยฮัน” ผู้พิพากษาที่ได้รับฉายาว่า ‘ผู้พิพากษาปีศาจ’ ร่วมด้วย คิมมินจองรับบทเป็น “จองซอนอา” คู่ปรับตัวฉกาจของคังโยฮัน นอกจากนักแสดงมากประสบการณ์อย่าง จินยอง จีซอง และ คิมมินจองแล้ว ยังมี พัคคยูยอง ที่รับบท “ยุนซูฮยอน” ตำรวจนักสืบในหน่วยสืบสวนภูมิภาคเพื่อนสนิทของคิมกาอนตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา.. คือ วีรบุรุษ หรือ ปีศาจร้ายภายใต้หน้ากากของการพิพากษาที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ซีรีส์สุดเข้มข้นที่อัดแน่นด้วยนักแสดงชั้นนำขนาดนี้ ไม่ดูไม่ได้แล้ว บอกเลยว่าเรื่องนี้เข้มข้นและมีวลีเด็ดๆ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ไม่น้อย ติดตาม “The Devil Judge " ได้ทุกวันอาทิตย์ - จันทร์ เวลา 8.00 น. ทาง WeTV (1 EP/วัน) จำนวนทั้งหมด 16 ตอน | https://bit.ly/TheDevilJudgeWeTV

มาถึงคิวแฟนมีตของ “เยริ” จาก Red Velvet และ “ฮงซอก” จาก PENTAGON ทั้งสองคนถือว่าเป็นน้องใหม่ไฟแรงทางด้านการแสดงเลยก็ว่าได้ Blue Birthday เป็นการทำงานด้านการแสดงครั้งแรกและเป็นการโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่อีกด้วย งานนี้เหล่าสาวกทั้ง ReVeluv ของ Red Velvet และ Universe ของ PENTAGON พลาดไม่ได้จริงๆ “Blue Birthday” เป็นเว็บดราม่าแนวโรแมนติกแฟนตาซี ผลงานการผลิตจาก PLAYLIST เจ้าของผลงานเว็บดราม่าวัยรุ่นชื่อดังมากมาย อาทิ เช่น A-Teen, Twenty-Twenty, Live On และ “Love Playlist” (ประสบความสำเร็จถึง 4 ซีซัน รวมถึงภาคต่อของ Love Playlist ที่ได้กลายมาเป็นซีรีส์ที่ได้ฉายบนช่องทีวีอย่าง Dear.M ที่เพิ่งปล่อยทีเซอร์ออกมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา) “Blue Birthday” คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “โอฮาริน” (รับบทโดย เยริ Red Velvet) ที่สูญเสียรักแรกไปอย่างปริศนาในวันเกิดปีที่ 18 ของเธอ? 10 ปีต่อมา โอฮารินได้เจอกับรูปที่ทิ้งไว้ของ “จีซอจุน” (รับบทโดย ฮงซอก PENTAGON) และทำให้เธอย้อนกลับไปสู่วันเกิดปีที่ 18 ของเธออีกครั้งหนึ่ง?รับชมซับไทยพร้อมที่เกาหลี ทุกวันศุกร์-เสาร์ เวลา 17:00 น. (1 EP/วัน) จำนวนทั้งหมด 16 ตอน เริ่มตอนแรก 23 กรกฎาคมนี้ (2564) ที่ WeTV เท่านั้น | https://bit.ly/BlueBirthdayWeTV

ตามมาด้วย “คังซึงยุน” หัวหน้าวงและตำแหน่งร้องนำเสียงนุ่ม จากวง WINNER ครั้งนี้ได้โอกาสแสดงความสามารถทางการแสดงในซีรีส์เกาหลีสืบสวนสุดลุ้นระทึก “VOICE 4” ‘คังซึงยุน’ รับบทเป็น “ฮันอูจู” เจ้าหน้าที่ไซเบอร์ 4D ด้วยมันสมองและไหวพริบที่โดดเด่นจึงได้รับการแต่งตั้งพิเศษให้อยู่ในทีมสืบสวน ในซีซัน 4 นี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของทีมโกลเดนไทม์และหัวหน้าทีม “คังวอนจู” (รับบทโดย อีฮานา) ตำรวจสายสืบที่มีความสามารถพิเศษในการได้ยินเสียง แต่ครั้งนี้ฆาตกรก็ไม่ธรรมดาเพราะมีความสามารถในการได้ยินเหมือนกับเธอนั่นเอง เธอจึงต้องร่วมมือกับหัวหน้าหน่วย LAPD “เดเร็ก โจ” (รับบทโดย ซงซึงฮอน) เพื่อจับคนร้ายในคดีนี้การสืบสวนครั้งนี้จะลุ้นระทึกและน่าตื่นเต้นแค่ไหน ? ติดตามได้แล้ววันนี้ที่ WeTV ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 น. (1 EP/วัน) จำนวนทั้งหมด 14 ตอน | http://bit.ly/VoiceSS4

ปิดท้ายด้วย 3 หนุ่มนักแสดงจากเว็บดราม่าวายน่ารักสดใสสไตล์วัยรุ่น “Light on Me” ที่สร้างจากเกมมือถือและเว็บตูนสุดฮิต ที่ได้ ‘อีเซอน’ หรือ ‘ยูยงบิน’ หนึ่งในผู้เข้าร่วมแข่งขันรายการเซอร์ไววัลอันโด่งดัง “Produce 101” ซีซัน 2 มารับบท “อูแทกยอง” หนุ่มน้อยโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบยุ่งกับใคร แต่แล้วอยู่ดีๆ แทกยองก็อยากมีเพื่อนขึ้นมา เพื่อนอย่าง “โนชินอู” (รับบทโดย คังยูซอก) แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้เรียบง่ายแบบนั้น เมื่อมีอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่เข้ามาปั่นป่วนหัวใจให้วุ่นวายประธานสภานักเรียนแสนใจดี “ชินดาอน” (รับบทโดย ชเวชานอี) เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แทกยองจะหาเพื่อนได้สำเร็จหรือไม่ ? และความสัมพันธ์ของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามชมพร้อมกันได้ที่ WeTV เท่านั้น อัปเดตตอนใหม่ทุกวันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 16.00 น. (1EP/วัน) จำนวนทั้งหมด 16 ตอน | http://bit.ly/LightOnMeWeTV

WeTV จัดเต็มซีรีส์เกาหลีที่เป็นผลงานของเหล่าศิลปินไอดอลมารัวๆ แบบนี้ หวังว่าจะช่วยเยียวยาความคิดถึงเกาหลีกันไปได้บ้าง แต่ถ้ายังไม่จุใจ WeTV ยังมีกองทัพศิลปิน ซีรีส์ และเว็บดราม่าเกาหลีมากมายจากสตูดิโอ PLAYLIST และ WHYNOT Media กว่า 20 เรื่องมาให้ทุกคนได้ฟินกันอย่างเต็มที่ อาทิเช่น Love Playlist S1-S4, Seventeen, Best Mistake S1, Be My Boyfriend เป็นต้น แฟนๆ ของเหล่าศิลปินไอดอลและซีรีส์เกาหลีทุกสาขา มารวมตัวกันหวีดพวกเขาให้เต็มที่ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ จะเลือกมีตแอนด์กรี๊ดกับอปป้าคนนั้น หรือนูน่าคนไหน หรือจะขอเหมาไปทุกเรื่องเลยก็ไม่ว่ากัน จัดเต็มแบบนี้ เก็บให้ครบกันได้ที่ WeTV เท่านั้น! โหลดฟรี ดูฟรี และติดตามความเคลื่อนไหวของคอนเทนต์เอเชียชั้นนำได้ทาง Social Media ของ WeTV Thailand ทุกช่องทาง

ประวัติ หวัง อี้ป๋อ (Wang Yibo)

img ]

หวัง อี้ป๋อ (Wang Yibo) นักร้องและนักแสดงชายชาวจีน เกิดวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1997 ปัจจุบันอายุ 24 ปี อี้ป๋อเปิดตัวเข้าสู่วงการบันเทิงในปีค.ศ. 2014 จากการเป็นสมาชิกวง ยูนิก (UNIQ) วงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลีใต้-จีน ร่วมกับ อี้เซวียน , ซ็องจู , เวิ่นฮั่น และซึงย็อน ต่อมาในปีค.ศ. 2016 อี้ป๋อก็ได้มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกเรื่อง MBA Partners

ในปีค.ศ. 2017 หวัง อี้ป๋อ (Wang Yibo) ได้มีโอกาศรับบทนำครั้งแรกในละครเรื่อง Private Shushan Gakuen และในปีเดียวกัยอี้ป๋อได้รับเชิญให้ไปแสดงในละครเรื่อง When We Were Young ในปีค.ศ. 2018 ได้เข้าไปเป็นครูสอนเต้นในรายการ Produce 101 ด้วยความสามารถด้านการเต้นที่แสดงออกมาก็ทำให้อี้ป๋อมีชื่อเสีย

ในปีค.ศ. 2019 ถือเป็นปีทองของ หวัง อี้ป๋อ (Wang Yibo) เพราะนอกจากจะได้รับบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรกในละครเรื่อง Gank Your Heart เกมนี้มีรัก อี้ป๋อยังได้รับบทนำในละครที่สร้างจากนิยายชื่อดังเรื่อง The Untamed ปรมาจารย์ลัทธิมาร ซึ่งทำให้อี้ป๋อโด่งดังและมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศรวมถึงในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้นิตยสาร Forbes ยังจัดอันดับให้อี้ป๋ออยู่ในอันดับที่ 9 ในบรรดาชาวจีนผู้มีชื่อเสียง 100 คน และเป็นหนึ่ง 30 ชาวเอเชียที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปีและมีอิทธิพลในหมวดหมู่งานของตนอีกด้วย

ผลงานแสดง

ภาพยนตร์

ปีค.ศ. 2016

MBA Partners รับบท Zhao Shuyu

A Chinese Odyssey Part Three รับบท Red Boy

ปีค.ศ. 2018

Live For Real รับบท Lin Jin

Crystal Sky of Yesterday รับบท Qi Jingxuan

ปีค.ศ. 2019

Fantasy Westward Journey

ปีค.ศ. 2020

Le Vrai Ou

ปีค.ศ. 2021

China Starts Again

My Legacy and I 2

ปีค.ศ. 2022

Formed Police Unit รับบท Yang Zhen

TBA

Unexpected Love รับบท Chang Lin

ผลงานโทรทัศน์

ปีค.ศ. 2017

Love Actually รับบท Zhai Zhiwei

When We Were Young รับบท Lin Jiayi

ปีค.ศ. 2019

Gank Your Heart รับบท Ji Xiangkong ดูละครออนไลน์

The Untamed รับบท Lan Wangji

ปีค.ศ. 2020

My Strange Friend รับบท Wei Yichen

Legend of Fei รับบท Xie Yun

ปีค.ศ. 2021

Faith Makes Great รับบท Jiang Xianyun

Being a Hero รับบท Chen Yu

TBA

The Wind Rises in Luoyang รับบท Baili Hongyi

Private Shushan Gakuen รับบท Teng Jing

รายการวาไรตี

ปีค.ศ. 2016

Day Day Up หน้าที่ พิธีกร

ปีค.ศ. 2018

Produce 101 หน้าที่ เมนเทอร์ด้านการเต้น

ปีค.ศ. 2019

One More Try หน้าที่ สมาชิกทีม

ปีค.ศ. 2020

Street Dance of China 3 หน้าที่ โค้ชหัวหน้าทีม

ปีค.ศ. 2021

Bravo Youngsters หน้าที่ เมนเทอร์

Street Dance of China 4 หน้าที่ โค้ชหัวหน้าทีม

ผลงานเพลง

ปีค.ศ. 2017

เพลง Once Again เพลงประกอบละคร Once Again

เพลง Just Dance

ปีค.ศ. 2018

เพลง The Shadow of the Shark

เพลง Heart Affairs of the Youth เพลงประกอบละคร Crystal Sky of Yesterday

ปีค.ศ. 2019

เพลง Fire

เพลง Lucky

เพลง The Coolest Adventure เพลงประกอบละคร Gank Your Heart

เพลง Saying Sword

เพลง Unrestrained เพลงประกอบละคร The Untamed

เพลง Won’t Forget

เพลง No Sense

ปีค.ศ. 2020

เพลง For Mommy เพลงประกอบละคร Lost In Russia

เพลง Light of Dawn

เพลง The Rule of My World

ปีค.ศ. 2021

เพลง When Youth Comes

รางวัลที่เคยได้รับ

ปีค.ศ. 2017

รางวัล Top Chinese Music Awards สาขา ไอดอลหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

รางวัล Asian Influence Awards Ceremony สาขา นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

รางวัล 2017 Weibo TV Online Video Awards Ceremony สาขา ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี

รางวัล ifeng Fashion Choice สาขา นักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม

รางวัล Sina Best Taste สาขา ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี

ปีค.ศ. 2018

รางวัล QQ Interest Blog Appreciation Night สาขา ศิลปินชายแห่งปี

ปีค.ศ. 2019

รางวัล GQ 2019 Men of the Year สาขา นักแสดงดาวรุ่งแห่งปี

รางวัล 6th Hengdian Film and TV Festival of China สาขา ทูตการท่องเที่ยว

ขอบคุณภาพจากไอจี @yibo.w_85

https://www.instagram.com/yibo.w_85

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม yibo.w_85

มาสด้าเผยแก่นแท้ที่ทำให้ CX-30 คือที่สุดแห่งครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับโลก

img ]

มาสด้า CX-30 เผยโฉมสู่สาธารณชนในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ การปรากฏกายขึ้นครั้งแรกสร้างความฮือฮาตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เกิดกระแสตอบรับเป็นอย่างดีและสร้างชื่อเสียงกระหึ่มไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว เพราะนี่คือ ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่เป็นต้นแบบแห่งความสง่างาม ภายใต้การออกแบบ KODO Design เจเนอเรชั่นใหม่ ถูกถ่ายทอด DNA จากยานยนต์ต้นแบบ VISION COUPE อันเกิดจากศิลปะของแสงและเงา The artistry of light เกิดเป็นนิยามใหม่ของความมีชีวิตชีวา Breathing life into the car โดยนำปรากฏการณ์ความสวยงามตามธรรมชาติผ่านการรังสรรค์ด้วยความประณีตก่อเกิดเป็นความวิจิตรงดงามเฉกเช่นผลงานศิลปะชิ้นเอก เพื่อส่งมอบความมีชีวิตชีวาให้กับรถยนต์เสมือนมีชีวิต

ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ทำให้รถรุ่นนี้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมายจากทั่วโลก อาทิ รางวัล Golden steering wheel award 2019 ประเภท Compact SUV จากประเทศเยอรมนี รางวัล Red Dot award 2020 ประเภท Product design จากประเทศเยอรมนี รางวัล Design trophy 2020 ประเภท SUV และประเภท Champion of all classes จากประเทศเยอรมนี รวมถึงเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเพียงหนึ่งเดียวที่เข้ารอบ 3 คันสุดท้ายเพื่อชิงรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก Top 3 world car of the year 2020 และ world car design of the year ในปีเดียวกัน ซึ่งรางวัลการันตีนี้แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบในทุกด้านของ CX-30 ที่เปี่ยมด้วยความสง่างามพรีเมี่ยมและเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก

แน่นอนว่าในประเทศไทยคงยากที่จะปฏิเสธว่ารถครอสโอเวอร์รุ่นนี้ร้อนแรงไม่แพ้ใครในโลกใบนี้เช่นกัน ตั้งแต่เปิดตัวช่วงต้นปี 2563 เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สร้างกระแสฟีเวอร์ทำยอดจองถล่มทลายถึง 2,000 คัน จนปัจจุบัน CX-30 มียอดขายสะสมกว่า 10,000 คัน รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้กับมาสด้าด้วยการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2563 หรือ Thailand car of the year 2020 มาครองได้อย่างภาคภูมิใจ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นรอบด้านจึงทำให้แฟนๆ มาสด้าติดอกติดใจ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยมีมาสด้าในสายตาต้องเหลียวหลังกลับมามอง วันนี้เราจะมาเจาะลึกรายละเอียดกันว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ CX-30 กลายเป็นต้นแบบแห่งความสง่างาม อะไรคือแก่นแท้ที่ทำให้ CX-30 ได้รับความนิยมจากชาวไทยมาจนถึงวันนี้

  1. พรีเมี่ยมครอสโอเวอร์ต้นแบบแห่งความสง่างาม สปอร์ต โฉบเฉี่ยวทุกมุมมอง ความหรูหราสง่างามที่แตกต่างจากครอสโอเวอร์ทั่วๆ ไป คือสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้พบเห็นต่างหันกลับมาเหลียวมอง CX-30 ซึ่งความสง่างามนี้เกิดจากการยกระดับการออกแบบให้เกิดการเคลื่อนไหวที่งดงามและโดดเด่นตามแนวคิด KODO: Soul of motion เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่นที่มีความสง่างามเฉกเช่นเดียวกับรถต้นแบบ VISION COUPE ที่เผยโฉมในปี 2560 รถรุ่นนี้จึงโดดเด่นและแตกต่าง โดยการลดทอนบางสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป Less is More เกิดเป็นความเรียบง่ายแต่หรูหรา สะดุดตาจากการสะท้อนของเส้นสายและแสงเงาที่ตกกระทบบนตัวรถเป็นรูปตัวเอส และกลายเป็นความงามที่ผสมผสานกับความพลิ้วไหวสไตล์รถคูเป้และความแข็งแกร่งของเอสยูวี ที่โฉบเฉี่ยว มั่นคง และทรงพลัง ต้องตาต้องใจผู้พบเห็น จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถต้นแบบแห่งความสง่างาม

  2. ภายในหรูหรา พรีเมี่ยม กว้างขวาง เติมเต็มทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต ภายในของ CX-30 แสดงออกถึงความโดดเด่นและมีคุณภาพอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง การออกแบบอย่างพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด การตัดเย็บอย่างประณีตราวกับงานทำมือ เลือกใช้การตกแต่งภายในด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลเข้มที่ช่วยสร้างความรู้สึกภูมิฐานและพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังได้ถูกพัฒนาให้มีความกว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้โดยสารในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างระหว่างเบาะนั่ง พื้นที่บริเวณคอนโซลกลาง ที่พักแขนบริเวณประตูและความกว้างของห้องโดยสารด้านหลัง ทำให้ผู้โดยสารสามารถแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัวหรือเพื่อนได้ตลอดการเดินทาง ไม่เพียงเท่านั้น รถรุ่นนี้ยังออกแบบโดยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายเพื่อตอบสนองทุกรูปแบบของการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว

  3. อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์สกายแอคทีฟอัตราเร่งดีและประหยัดน้ำมัน CX-30 ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวทุกการใช้งาน ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะความแรง ด้วยพละกำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ทำให้ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85 และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานในระดับสากล จึงทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

  4. ความปลอดภัยระดับโลกด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense มากถึง 12 ระบบ รถรุ่นนี้พรั่งพร้อมครบครันด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สามารถคาดการณ์ และส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้รอบทิศทาง เช่น ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า, ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง, ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance และอีกหลากหลายเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง ที่ช่วยปกป้องและป้องกันผู้โดยสารไปในทุกเส้นทาง

  5. ห้องโดยสารเงียบขึ้นช่วยให้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง CX-30 ถูกยกระดับความเงียบภายในห้องโดยสาร โดยเลือกใช้วัสดุคุณภาพดีที่ช่วยเก็บเสียงและดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของฉนวนโดยใช้โครงสร้าง “ผนังสองชั้น” ที่เว้นช่องว่างระหว่างพรมปูพื้นกับแผงตัวถังด้านล่าง ระหว่างแผงประตูกับแผงตกแต่งด้านใน และลดจำนวนรูให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฉนวนกันเสียง รวมถึงยังใช้การซีลภายในตรงขอบประตูหลังเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมที่พัดผ่านช่องว่าง และลดเสียงจากพื้นถนนด้วยเช่นกัน จึงทำให้ CX-30 กลายเป็นรถที่มีความเงียบ ช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินกับบทสนทนาหรือการพักผ่อนไปตลอดการเดินทาง

  6. ขับง่าย นั่งสบาย เกาะหนึบทุกการเข้าโค้งด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง รถรุ่นนี้มาพร้อมแพลตฟอร์ม SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ตำแหน่งการขับขี่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับสรีระมากที่สุด โดยออกแบบให้เบาะนั่ง ตัวถัง และแซสซี ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกันเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ที่ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ และลดอาการโคลงตัวของรถช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบายยิ่งขึ้น

  7. จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมลำโพง Bose® รอบทิศทางตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับตัวรถ สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay® และ Android Auto™ ช่วยให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญๆ โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง และยังเสริมสร้างสุนทรียภาพภายในห้องโดยสารด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

  8. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตสิ่งอำนวยความสะดวกสบายของ CX-30 จัดว่าครบครันไม่แพ้รถรุ่นไหน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบายและคล่องตัว

  9. การสื่อสารการตลาดเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนมาสด้าวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน CX-30 มากับคอนเซ็ปต์ LIFE’S ALWAYS ON “เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” เป็นรถยนต์ที่เข้ามาเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้า เพื่อออกไปแสวงหาและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านของชีวิตจากบทบาทหนึ่งไปสู่อีกบทบาทหนึ่ง อาทิ จากคนโสดสู่การมีคู่ชีวิต ต่อเนื่องไปสู่การเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ที่ใช้เวลาร่วมกันบนรถยนต์ในการออกไปค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันและได้ร่วมแบ่งปันกับคนที่เขารัก CX-30 เป็นรุ่นที่สองของรถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ที่ให้คุณภาพดีเยี่ยมในทุกพื้นที่และทุกการเดินทางด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อมในทุกมิติ จึงทำให้ CX-30 เป็นครอสโอเวอร์ต้นแบบแห่งความสง่างามในระดับโลกที่มีความหรูหราสง่างาม บ่งบอกสไตล์พรีเมี่ยม พร้อมที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตให้มีความหมายมากยิ่งขึ้น พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าไปในทุกจังหวะของชีวิต และนี่คือครอสโอเวอร์ที่ตอบโจทย์ความสมบูรณ์แบบมากที่สุดในปัจจุบัน ที่สำคัญมาสด้าต้องการให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความเพลิดเพลินที่หลากหลาย ด้วยการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่สามารถเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าออกแสวงหาและค้นพบสิ่งใหม่ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการออกไปใช้ชีวิต เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจไปตลอดการเดินทาง ด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึง 1 ล้านบาท